บล็อกนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนในรายวิชาอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน และขอขอบคุณผู้ที่เข้ามาร่วมชมบล็อกทุกท่านค่ะ

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของมะเฟื่องและมะขาม

มะเฟื่อง

 ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Averrhoa carambola  L.

ชื่อสามัญ :   Star fruit

วงศ์ :   Averrhoaceae

ชื่ออื่น :  เฟือง (ภาคใต้)  สะบือ (เขมร)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 3-10 เมตร แตกกิ่งก้านสขามาก ใบ เป็นใบประกอบขนาดคล้ายใบมะยม สีเขียวเป็นมัน เรียงเป็นคู่ตรงข้าม ดอก เป็นช่อเล็กออกตามง่ามใบ สีม่วง ขาว ชมพู ผล เดี่ยว เป็นกลีบ หน้าตัด รูปดาว 5 แฉก สีเขียวอ่อน สุกสีเหลือง ฉ่ำน้ำ เมล็ด มีขนาดเล็ก
ส่วนที่ใช้ :  ดอก ใบ ผล ราก

สรรพคุณ :
    ดอก -  ขับพยาธิ

    ใบ, ผล  -  ทำยาต้ม ทำให้หยุดอาเจียน

    ผล
    - มี oxalic ทำให้เลือดจับเป็นก้อน
    - ระบาย
    - แก้เลือดออกตามไรฟัน
    - แก้บิด ขับน้ำลาย ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว
    - ลดอาการอักเสบ

    ใบและราก - เป็นยาเย็น เป็นยาดับพิษร้อน แก้ไข้ ถอนพิษไข้







มะขาม


ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Tamarindus indica  L.

ชื่อสามัญ :   Tamarind

วงศ์ :    Leguminosae - Caesalpinioideae

ชื่ออื่น :  ขาม (ภาคใต้) ตะลูบ(ชาวบน-นครราชสีมา) ม่องโคล้ง (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) อำเปียล (เขมร-สุรินทร์) หมากแกง (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน) ส่ามอเกล (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้ต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นขรุขระและหนา สีน้ำตาลอ่อน ใบ เป็นใบประกอบ ใบเล็กออกตามกิ่งก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบและโคนใบมน ดอก ออกเป็นช่อเล็กๆ ตามปลายกิ่ง หนึ่งช่อมี 10-15 ดอก ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีเหลืองและมีจุดประสีแดงอยู่กลางดอก ผล เป็นฝักยาว รูปร่างยาวหรือโค้ง ยาว 3-20 ซม. ฝักอ่อนมีเปลือกสีเขียวอมเทา สีน้ำตาลเกรียม เนื้อในติดกับเปลือก เมื่อแก่ฝักเปลี่ยนเป็นเปลือกแข็งกรอบหักง่าย สีน้ำตาล เนื้อในกลายเป็นสีน้ำตาลหุ้มเมล็ด เนื้อมีรสเปรี้ยว และหวาน
ส่วนที่ใช้ :

    เมล็ดในที่กะเทาะเปลือกออกแล้ว (ต้องคั่วก่อน จึงกะเทาะเปลือกออก)

    เนื้อหุ้มเมล็ด

สรรพคุณ :

    เมล็ด  -   สำหรับการถ่ายพยาธิตัวกลม พยาธิเส้นด้าย

    ใบ -  ขับเสมหะ

    แก่น  -  ขับโลหิต

    เนื้อ -  เป็นยาระบาย ขับเสมหะ แก้ไอ

วิธีและปริมาณที่ใช้ :

    ถ่ายพยาธิ
    ใช้เมล็ดในที่มีสีขาว 20-25 เมล็ดต้มกับน้ำใส่เกลือเล็กน้อย รับประทานเนื้อทั้งหมด 1 ครั้ง หรือคั่วให้เนื้อในเหลือง กะเทาะเปลือก แช่น้ำให้นิ่ม เคี้ยวรับประทานเช่นถั่ว

    แก้ท้องผูก
    ใช้เนื้อหุ้มเมล็ดคลุกเกลือรับประทาน ระบายท้อง

    แก้ไอ, ขับเสมหะ
    ใช้เนื้อในฝักแก่หรือมะขามเปียก จิ้มเกลือรับประทาน

สารเคมี :
          - เนื้อในหุ้มเปลือก มี tartaric acid 8-18%  invert sugar 30-40%
          - เมล็ด  มี albuminold  14-20% carbohydrate 59-65%  semi-drying fixed oil 3.9-20%  mucilaginous materal 60%


 ที่มา  http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_04_4.htm   
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น